Smart City Smart Energy
“Smart city” จริง ๆ แล้วนั้นเป็นคอนเซ็ปต์ที่มีมานาน โดยมีการนำเทคโนโลยีทั้งในด้านฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์ หรือระบบต่างๆเข้ามาช่วยทำให้การทำงานหรือความเป็นอยู่สะดวกสบายมากขึ้น แต่ในความสะดวกสบายนั้นจะต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
“Smart energy” คือส่วนหนึ่งของ Smart city ซึ่ง Smart energy มีหลายแบบ เช่น พลังงานทดแทน พลังงานสีเขียว พลังงานโซลาร์เซลล์ พลังงานจากแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำเข้ามาทดแทน หรือการใช้พลังงานไฟฟ้าแทนพลังงานที่มาจากการเผาไหม้
ความ “Smart” ของเมืองในประเทศไทยมักจะเน้นไปในเรื่องการขนส่งเป็นส่วนใหญ่ ทั้งที่จริง ๆ แล้วนั้น Smart city แบ่งออกได้เป็นหลายภาคส่วน เช่น คมนาคม พลังงาน คน และเกี่ยวกับข้อมูลความปลอดภัย
หากลองคิดดูว่าเมืองที่เราอยู่เป็น Smart city หรือไม่ จริง ๆ แล้วเรามี Smart city หรือ “may be our city has already been smart” อาจจะไม่ได้ Smart ทั้งเมืองแต่เป็นการนำร่อง เช่น การมี Wi-Fi ทั่วทั้งเมืองให้คนสามารถสื่อสารหรือหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตได้ตลอดเวลา มี Smart bus ที่มีแอปพลิเคชันในการบอกว่ารถอยู่จุดไหน โดยตัวรถที่วิ่งใช้ Smart energy
การใช้พลังงานอย่างประหยัดก็เป็นส่วนสำคัญของ Smart energy เช่น ในปัจจุบันมีการพูดถึงเรื่อง Smart light คือ ไฟที่มีเซนเซอร์ตรวจจับ เวลามีคนเดินผ่านแสงจะสว่างขึ้นและเมื่อเวลาไม่มีคนแสงจะหรี่ลงโดยใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น หรือมีการพูดถึงสถาปัตยกรรม เช่น การออกแบบเมืองของญี่ปุ่น จะมีการออกแบบตึกให้ลดความร้อนเพื่อประหยัดแอร์ในช่วงหน้าร้อน และในหน้าหนาวก็ถูกออกแบบให้ประหยัดการใช้ฮีตเตอร์ อีกตัวอย่างหนึ่งจะเป็นของสิงคโปร์ที่มีการนำโปรแกรมเข้ามาช่วยตั้งแต่กระบวนการออกแบบว่า ตรงไหนมีแสงลงมาก หลังคาตรงส่วนนั้นจะเป็นหลังคาโซลาร์เซลล์ ตรงไหนที่มีช่องลมจะมีการออกแบบให้มีอากาศถ่ายเท
ดังนั้น เพื่อให้เมืองของเรามีความ “Smart” มากขึ้น เราควรจะเลือกใช้ “Smart energy” ให้เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของเรา ซึ่งจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและจะทำให้เรามีสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
(สัมภาษณ์ อาจารย์ ดร. เพชรพิไล ลัธธนันท์ อาจารย์ประจำภาควิชาภูมิศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)